เมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Tranformation) นวัตกรรมต่างๆ ก็มีการพัฒนาให้เข้ากับระบบดิจิทัลที่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นผ่านสื่อกลางอย่างอินเทอร์เน็ต โดยในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เอง ได้มีการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Prop Tech (Property Technology) ขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาฯ ให้ก้าวหน้าขึ้น
Property Technology เป็นนวัตกรรมที่รวมเอาธุรกิจอสังหาฯ กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะนำมาพัฒนากับที่อยู่อาศัยแล้ว ยังรวมไปถึงการนำมาช่วยด้านการขายอสังหาฯ ให้มีประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ทางการขายให้กับผู้บริโภคได้อย่างทันสมัยและเห็นภาพได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
เราได้รวบรวมเอา 4 คำศัพท์ ที่คุณอาจจะคุ้นหน้าหรือผ่านตามาบ้างแล้ว มาอธิบายเพิ่มเติมในเชิงอสังหาฯ ดูบ้าง ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้นำมาใช้ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอย่างไรบ้าง
4 คำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับ Prop Tech
1. IoT (Internet of Things)
IoT (Internet of Things) เป็นหนึ่งแนวคิดที่สำคัญและจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ เพราะ IoT เป็นการทำให้อุปกรณ์และนวัตกรรมต่างๆ รอบตัวเรา สามารถทำงานร่วมกันได้ผ่านสื่อกลางที่เป็นอินเทอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คืออุปกรณ์ไหนที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก็สามารถทำงานร่วมกันได้
สำหรับ Prop Tech เองมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นมากมายในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งไว้ในที่อยู่อาศัย โดยเจ้าของบ้านสามารถสั่งการอุปกรณ์เหล่านี้ผ่านทางสมาร์ทโฟน เช่น ระบบประตูล็อคอัจฉริยะ (Digital Door Lock) ที่เจ้าของบ้านสามารถสั่งการให้ปลดล็อคบ้านได้เมื่อมีเพื่อนสนิทมาเยี่ยมที่บ้าน หรือใช้เพื่อสั่งการล็อคประตูบ้านได้จากระยะไกล
ปัญญาประดิษฐ์กับระบบ IoT
การพัฒนาการของ IoT ในปัจจุบันนี้ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถสั่งการและควบคุมด้วยตนเองเท่านั้น แต่อุปกรณ์ต่างๆ มีการติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ที่ช่วยในการดูแลระบบต่างๆ ในบ้านให้ทำงานได้ตามความต้องการของคุณ แถมยังมีการจดจำการใช้งานของเจ้าของบ้านเพื่อประมวณผลออกมาในหลากหลายรูปแบบ
ตัวอย่างของ AI ที่ทำงานร่วมกับ IoT
Home Automation หนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในที่อยู่อาศัยด้วยระบบอัจฉริยะ เมื่อย้อนกลับไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นเพียงที่อยู่อาศัยที่ถูกออกแบบและตกแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำงานเมื่อเสียบปลั๊กและเปิดสวิตช์เท่านั้น เมื่อผ่านเข้าสู่ยุคของ Pro Tech การออกแบบที่อยู่อาศัยก็ถูกพัฒนาขึ้นโดยการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบ และติดตั้งเข้ากับตัวที่อยู่อาศัย เพื่อให้ความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น จากที่เราต้องคอยเสียบปลั๊กเพื่อเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า กลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้เองตามคำสั่งการของเราผ่านอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนหรือสามารถสั่งการด้วยเสียงได้
ไม่เพียงแต่ระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบอัจฉริยะที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศอัจฉริยะที่จะรับเอาอากาศบริสุทธ์จากภายนอกเข้าสู่ที่พักอาศัย เพื่อช่วยในการระบายความร้อนและความอับชื้นภายในตัวบ้าน ทำให้ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศไปได้อย่างมาก
นอกจากนี้ Home Automation ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ ที่ช่วยให้ที่อยู่อาศัยนั้นอัจฉริยะมากขึ้น ได้แก่
- Smart Door Lock ระบบประตูล็อคอัจฉริยะ
- Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัย
- ระบบควบคุมแสงสว่าง
- ระบบควบคุมความบันเทิง
Home Automation จึงเป็นส่วนหนึ่งที่นำเอาเทคโนโลยีมาสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยของผู้พักอาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. AR (Augmented Reality) / VR (Virtual Reality)
เราเห็นกันมาบ้างแล้วกับ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ที่ใช้ในสื่อบันเทิงทั้งการดูหนัง เล่นเกม และสื่อการเรียนการสอน แต่เทคโนโลยีการสร้างแบบจำลองนี้ยังถูกนำมารวมเป็นหนึ่งใน Prop Tech ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมของอสังหาฯ เช่น จำลองภาพภายในตัวโครงการที่กำลังสร้าง จำลองการออกแบบให้ดูเสมือนจริงเพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการขาย ทำให้กลุ่มลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น เพราะการจำลองนั้นมีมิติ สีสัน และความกว้างที่สมจริง เพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ของลูกค้าได้มากขึ้น
ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการขายและการโฆษณาเท่านั้น AR และ VR ยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการการออกแบบ เพื่อก่อสร้างโครงการของอสังหาฯ และผลจากการออกแบบด้วยเทคโนโลยีนี้ยังสามารถช่วยลดความผิดพลาดในการออกแบบอสังหาฯ ได้อีกด้วย
3. Big Data
Big Data เป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่มากที่ใช้สำหรับการบริหารข้อมูลซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย และเป็นแหล่งข้อมูลที่ธุรกิจส่วนใหญ่เลือกมาใช้วิเคราะห์ เพื่อจะได้รู้ถึงพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย กล่าวคือธุรกิจที่สามารถวิเคราะห์ Big Data ได้จะมีความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันกับธุรกิจอื่น เนื่องจากสามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้
ธุรกิจอสังหาฯ เกี่ยวข้องกับ Big Data อย่างไร?
ถ้าทำความเข้าใจแบบง่ายๆ Big Data เป็นแหล่งรวมรวมข้อมูลมากมายของกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ออกมา ซึ่งในด้านของอสังหาฯ แล้ว จะนำไปค้นหากลุ่มเป้าหมายที่กำลังสนใจในอสังหาฯ และจะนำข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นมาแสดงถึงพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ Big Data เป็นกุญแจสำคัญของการทำการตลาด โดยการนำข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายจากการค้นหาใน Big Data นี้มาสร้างเป็นการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยให้ดีเวลลอปเปอร์ปรับตัวได้ตามความเคลื่อนไหวของกระแสกลุ่มเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา
4. Blockchain
เทคโนโลยีโครงข่ายที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการนำ Blockchain ไปใช้กับ Bitcoin ซึ่งแท้จริงแล้ว Bitcoin เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Blockcahin เท่านั้น
Blockchain ถูกใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจด้านการเงิน ซึ่งเป็นโครงข่ายออนไลน์ที่ใช้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนโดยไม่ผ่านตัวกลาง ทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมถูกลง เนื่องจากไม่มีสถาบันทางการเงินเป็นตัวกลางให้บริการอีกต่อไป และ Blockchain ยังมีความโปร่งใสและความปลอดภัยสูงมาก นอกจากการให้บริการทางธุรกรรมแล้วยังสามารถใช้เก็บสถิติการเลือกตั้ง Cloud Storage ไปจนถึง Peer to Peer หรือการซื้อขายแลกเปลี่ยนโดยตรงที่ไม่มีนายหน้าเป็นตัวกลาง
ธุรกรรมของอสังหาริมทรัพย์ในยุคใหม่
ในธุรกิจอสังหาฯ นั้นสามารถนำ Blockchain เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกรรมให้รวดเร็วมากขึ้น ลดเวลาและความยุ่งยากในการจัดการเอกสารซื้อขาย รวมถึงสามารถซื้อขายกับลูกค้าได้โดยตรงหรือ Peer to Peer ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการขายผ่านพ่อค้าคนกลาง
สำหรับ Blockchain เองมีความสามารถในการส่งข้อมูลการซื้อขายซึ่งจะถูกเก็บไว้เป็นความลับในระบบซึ่งมีการตรวจสอบผู้ใช้งานให้มีความน่าเชื่อถือสูงสุด เมื่อมีการซื้อขายกันเกิดขึ้น จึงทำให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
สรุป
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Prop Tech นั้นไม่ได้เป็นเพียงการขับเคลื่อนทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการพลิกโฉมวงการอสังหาฯ ให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีนี้มาสร้างประสบการณ์ให้กับผู้พักอาศัยได้อย่างอัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับดีเวลลอปเปอร์ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซื้อขาย การโฆษณา การติดต่อกับลูกค้า ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอีกด้วย